จุดเริ่มต้นไม้พะยูงไหหลำ หรือที่คนชอบเรียกไม้พยุงไหหลำ
สายพันธุ์สำคัญที่สุด ***พยุงไหหลำ หรืออีกชื่อพะยูงไหหลำสายพันธุ์ดีๆ ห้าปีก็เริ่มมีแก่นขายได้ เราตามจากไม้ที่ขายจริงอยู่ในตลาดตามจนถึงแปลงปลูกแล้วค่อยสั่งเมล็ดจากสวนนั้นๆ มาเพาะแล้วปลูกต่อในเมืองไทย เพราะถ้าเก็บจากต้นข้างทางทั่วๆไปบางต้นก็ไม่เข้าแก่นและส่วนใหญ่เข้าแก่นช้ามากถ้าสั่งมามั่วๆ
.........พยุงไหหลำ Hainan Huanghuali นับเป็นไม้ที่มีความแข็ง เนื้อไม้เนียนละเอียด ลวดลายสวยงาม และมีความหายากมากในประเทศจีน เพราะจีนแม้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลแต่แหล่งกำเนิดและพื้นที่ปลูกไม้ชนิดนี้ได้ต้องเป็นเขตร้อน ชื้นและต้องไม่เคยมีหิมะ ถ้าอุณหภูมิติดลบ ไม้ชนิดนี้จะตายจึงปลูกได้เฉพาะที่เกาะไหหลำ กวางตุ้งและตอนใต้ของยูนนานบางส่วนเท่านั้น
.........ปัจจุบันมีการขยายพันธุ์ปลูกทางตอนใต้ของจีนแต่ไม่มาก เป็นไม้หวงห้ามของจีนจึงติดปัญหากฎหมายมากมายจึงไม่นิยมปลูก..ปัญหาคล้ายกับพะยูงไทยที่เป็นไม้หวงห้ามของไทยติดกฎหมายห้ามส่งออกจึงทำในเชิงเศรษฐกิจไม่ได้จริง
.........ประเทศไทยซึ่งมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะในการปลูกทั้งพะยูงไหหลำและพะยูงเวียตนาม แต่ยังไม่มีใครสนใจที่จะปลูกจริงๆจังๆ ถึงเวลาแล้วครับ ที่เกษตรกรไทย จะปลูกไม้ที่ทรงคุณค่าและมีราคาแพงตัวนี้ ส่งตลาดจีนและเวียตนามกันอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อนบ้านเราเค้าเริ่มขยับไปแล้วครับ
........หากเรายังไม่รู้จักปรับตัวและคิดว่าตัวเองดีพอแล้ว ประเทศเราจะย่ำอยู่กับที่ ทั้งๆที่เราได้เปรียบเค้าตั้งเยอะ คนไทยถ้าคิดจะทำอะไรจริงๆ..ก็ไม่แพ้ใครในโลกแน่ๆ แม้จะขาดการสนับสนุนจากภาครัฐและไม่เคยได้รับองค์ความรู้ใดๆเรื่องนี้เลย เราจะไม่รอครับ คนไทยต้องมีสิทธิ์คิดและพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่าด้วยตัวของเราเอง
........บทความนี้ขึ้นมาก็เพื่อให้เกษตรกรหัวคิดก้าวหน้าได้มีโอกาสศึกษาพืชชนิดนี้ดูอาจจะทดลองแต่ไม่ต้องมาก ไม่ต้องคิดว่าใครจะมาหลอกเราได้ เราไม่ได้โง่จนต้องทุ่มสุดตัว ถ้าดีก็ขยายต่อ แต่จากการไปดูงานปลูกพะยูงไหหลำในจีน เวียตนามและลาวมาแล้ว ผมถือว่าเป็นโอกาสดีๆของคนไทยเราแล้วหล่ะครับ ในยุคที่การเกษตรทุกๆอย่างราคาดิ่งลงเหว และไร้ทิศทาง มืดมนไปหมด ไร้การเหลียวแลใดๆจากผู้มีอำนาจ..
.......พยุงไทย "Siamese Rosewood" ติดกฎหมายสำคัญ คือมติ ครม.2551 ห้ามส่งออกพยุงไทยรวมถึงผลิตภัณฑ์จากไม้พยุงไทย การปลูก การตัด การขนย้าย การแปรรูป หรือแม้แต่การขาย ก็มีกฎหมายและข้อบังคับเต็มไปหมด ทั้งๆ ที่ราคาสูงมาก น่าจะปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจได้แท้ๆ จีนซื้อแพงมากแต่ถ้าส่งออกไปจีนไม่ได้ทุกอย่างก็จบ
..........เราจึงต้องมองหาพยุงไหหลำ ซึ่งเป็นไม้ต่างถิ่น ไม่ใช่ไม้หวงห้ามของไทย 1 ใน 158 ชนิด ใน พรบ.ป่าไม้ ปี 2484 และพรบ.ป่าไม้แก้ไขเพิ่มเติม ปี 2557 ปลูกได้ ตัดได้ ค้าขายได้ ส่งออกได้ง่ายกว่าเยอะเพียงแค่ ขอขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร แบบไม้ยูคาหรือมะฮอกกานี และกฐินเทพา เพราะพะยูงไหหลำ เป็นไม้เศรษฐกิจไม่ใช่ไม้พื้นถิ่นของไทย ไม่เคยมีในป่าเมืองไทยมาก่อน ลักษณะใบ ลำต้นและลายไม้แตกต่างจากพะยูงไทยอย่างชัดเจน ถึงเวลาแล้วที่เกษตรกรไทยจะก้าวออกมาพัฒนาตัวเองและมีทางเลือกใหม่ๆ ไม่ต้องถูกกดหัวให้จนไปตลอดชาติอีกต่อไป.
.........ปัจจุบันคนจีน 1,300 ล้านคน มีเศรษฐกิจใหญ่โตมาก คนจีนรวยเยอะมาก และทุกๆคนก็อยากใช้ไม้ที่ดีที่สุด ไม้พยุงไหหลำหรือ "Huanghuali" จึงเป็นที่หมายปองและมีความต้องการสูงมาก แม้จะราคาสูงขึ้นทุกๆปี นี่แหละครับที่ผมมองว่ามันคือโอกาสของเมืองไทยที่จะปลูกและตัดส่งขายจีน ผมถือสุภาษิตที่ว่า "อย่าใช้โอกาสเปลือง"เพราะโอกาสและจังหวะดีๆไม่ได้มีเข้ามาบ่อยๆ
........ไม้พยุงไหหลำ "Hainan Huanghuali" เป็นพยุงที่แพงที่สุดและมีตลาดรับซื้อใหญ่ที่สุดในจีนแต่มีปริมาณไม่เพียงพอ ปลูกได้ ตัดขายได้ไม่ผิดกฎหมายไทย ไม่ต้องขออนุญาติ ปลูก 8-10 ปีตัดขายได้เลย มูลค่า ต้นล่ะ 200,000-500,000 บาท ราคา ณ.ปัจจุบัน..ในตลาดจีนจริงๆ
........จากการศึกษาเชิงลึกลง พื้นที่จริงที่ประเทศจีนและเวียตนามรวมถึงปลูกทดสอบเองจนมีแก่นแล้วในเมืองไทย ผมจึงกล้าฟันธงว่าพะยูงไหหลำ พะยูงเวียตนามจะพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงสร้างรายได้ที่ดีให้เกษตรกรไทย และนำเงินตราเข้าประเทศมหาศาลในอนาคตอันใกล้นี้
.........ไม้พยุงไทยที่เค้าลักลอบตัดขายราคาแพงมาก และส่งตลาดจีนแบบไม่อั้นก็เพราะสีไม้ และคุณสมบัติบางอย่างของไม้พยุงไทยดันไปคล้ายไม้พะยูงไหหลำตัวนี้้นี่เอง อันที่จริงเค้าอยากได้ไม้พยุงไหหลำตัวนี้ต่างหากหล่ะ ราคาก็ดีกว่าไม้พยุงไทยเป็น 10 เท่าตัว แล้วทำไมเราไม่ปลูกกันเป็นล่ำเป็นสันแล้วส่งขายจีนหล่ะครับ
.......ราคาของผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้พยุงไหหลำเนื้อดีๆแพงมาก กำไรข้อมือชิ้นเดียว "สี่แสนบาท" โซฟาที่ทำจากไม้ชนิดนี้ เค้าประมูลที่ฮ่องกงเมื่อไม่นานมานี้ราคาสูงถึง 11.07 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือสามร้อยกว่าล้านบาทไทย เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก และทุกๆอย่างที่ทำจากไม้พยุงไหหลำนี้ล้วนมีราคาสูงมากๆจนน่าประหลาดใจ....จึงไม่มีเหตุผลใดที่เราจะไม่สนใจปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงสุดชนิดนี้
.........จากข้อมูลเชิงลึก มีการปลูกจริงๆจังจังในเกาะไหหลำ กวางตุ้ง และตอนเหนือของเวียตนาม ปลูก 8-10 ปี ขุดขายทั้งต้น ไม่ตัดตอ เพราะขายได้ทั้งราก แซะเอาส่วนของกระพี้สีขาวออกทิ้งแล้ว ขายเฉพาะแก่นไม้แบบชั่งน้ำหนักกันเลย ราคาตกกิโลกรัมล่ะ สามร้อยกว่าดอลลาร์ หรือ 10,000 บาท ต้นล่ะ 15-30 กิโลกรัม ก็เป็นเงิน 150,000-300,000 บาท ต่อต้น
.........ปลูกทิ้งๆ ไว้ก็ได้เงินมากขนาดนี้ 8-10 ปีถือว่าคุ้มค่าสุดๆ ไม่นานเกินไป ถ้าเราปลูกหมุนเวียนทุกๆปี ก็จะสร้างรายได้มหาศาลหมุนเวียนทุกๆปีตลอดไป โอกาสดีๆ เป็นของคนที่มองเห็นในสิ่งที่คนอื่นๆ ยังมองไม่เห็น.....มาชมตัวอย่างไม้จริงๆและต้นตัวอย่างที่มีแก่นแล้วในเมืองไทย.. รวมทั้งแปลงปลูกจริงได้ที่จังหวัดน่านน่ะครับ..เรามีของจริงๆ ให้พิสูจน์ไม่ใช่แค่ความฝัน
ติดต่อเราได้หากหลายช่อทางทั้ง Facebook, Line แชท, หรือโทรศัพท์โดยตรง
โทร 064-1929452 คุณปู
หรือแชทไลน์ คลิ๊ก https://line.me/ti/p/f75wx6lW2J
โทร 064-1929452 คุณปู
หรือแชทไลน์ คลิ๊ก https://line.me/ti/p/f75wx6lW2J
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น